ว่าด้วยเรื่องเครื่องสำอาง
ขอเกริ่นนิดหน่อยว่าเครื่องสำอางในปัจจุบันนี้มีเยอะมากมาย มีทั้ง Skin care สำหรับบำรุงผิว หรือ Make up การแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง ซึ่งการแต่งหน้าเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานแทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่สมัยโบราณกาล เช่น อียิป ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่นิยมแต่งแต้มสีสันในใบหน้า แม้แต่ฟาโรผู้เป็นกษัตริย์ก็เขียนตาและแต่งหน้าให้ดูดีด้วยเช่นกัน จนกระทั่งตอนนี้มนุษย์ก็ยังนิยมแต่งหน้าแต่งหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงลักษณะใบหน้า ลดจุดด้อยเพิ่มจุดเด่นกันเรื่อยมา อาจะเพื่อความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ทางเพศให้มากขึ้น
ว่าด้วยเรื่องของเมคอัพ
เมื่อโลกเราก้าวหน้าไปเครื่องสำอางยิ่งมีบทบาทกับโลก เช่นการโฆษณา การตกแต่งเพื่อการแสดง โทรทัศหรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายๆคนที่มิสเจอ สับสนเรื่องชนิดของเครื่องสำอางต่างๆ ไม่ทราบว่า
"ฉันจะลงอะไรก่อนดี"
"ซื้อมาแล้วใช้ไม่เป็น"
"แล้วมันคืออะไรล่ะเนี่ย"
วันนี้มิสเลยอยากแนะนำคนที่สนใจการแต่งหน้า อาจจะรู้ไว้เล็กๆน้อยๆ อย่างน้อยเมื่อลงมือแต่งหน้าออกไปนอกบ้าน คุณจะสามารถเลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับคุณได้
มาเรียนรู้กันเลยนะคะ ^_^
Foundation [รองพื้น]
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับรองพื้น
- เครื่องสำอางที่แทบจะขาดไม่ได้เลยสำหรับการแต่งหน้า ถ้าต้องการให้ผิวดูเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ รอยสิวและรอยดำบนหน้าดูจางไป ก็ต้องใช้รองพื้น
- หน้าที่ของรองพื้นดังที่กล่าวไว้ข้างต้น คนส่วนมากจะใช้รองพื้นเป็นขั้นตอนแรกหลังการทาครีมบำรุงผิว แต่ถ้าเป็นช่างแต่งหน้าที่มีเทคนิคชั้นสูงแล้วจะใช้เมคอัพเบสก่อนการลงรองพื้นทั่วไป
- รองพื้นเหมาะอย่างยิ่งกับคนมีปัญหาผิว เช่น มีรอยแดงจากสิว รูขุมขนกว้าง มีริ้วรอย สีผิวไม่เรียบ กระดำกระด่าง ผิวที่ตากแดดมาก ขาดการบำรุง แต่จำเป็นน้อยสำหรับคนที่มีผิวสุขภาพดี
- ในการแต่งหน้าเพื่อการแสดง ขาดรองพื้นไม่ได้เลย
- รองพื้นมีทั้งแบบทาใบหน้า ทาตัว เช่นเปลี่ยนสีผิว การแต่งหน้าเจ้าสาว จำเป็นต้องมีการรองพื้นตั้งแต่โคนผม ใบหน้า คอ แขน แผ่นหลัง เรียกว่าทุกส่วนที่โผล่ออกจากชุดแต่งงาน
- สีของรองพื้นของชาวตกวันตกกับตะวันออกจะต่างกันคือ ชาวตะวันตกมีสีผิวขาวซีด ขาวชมพู / คนตะวันออกจะเป็นผิวโทนขาวเหลือง และดำแดง นิโกรผิวน้ำตาลถึงดำ ก็จะใช้รองพื้นสีเข้ม
ลักษณะทั่วไปของรองพื้น
- มีตั้งแต่สีขาว ไล่ไปจนถึงสีดำสนิท เพราะสีผิวคนเรามีความแตกต่าง
pic
- รองพื้นมีหลายแบบ
+เนื้อแมท[matt] (ทาแล้วจะมีผิวด้าน เป็นธรรมชาติ ไม่มีความแวว)
+สูตรน้ำ [liquid] (เนื้อเบารองจากรองพื้นแบบมูส บางเบา ใช้แต่งหน้าที่ไม่จำเป็นต้อง
ปกปิดมาก ลักษณะเป็นของเหลวข้นสีเนื้อ)
+มูส รองพื้นเนื้อบางที่สุด ลักษณะคล้ายมูสที่ใส่ผมค่ะแต่สำผัสจะเบามาก เบาที่สุดในบรรดารองพื้นทั้งหมด ปกปิดน้อยถึงปานกลาง
+เนื้อครีม ปกปิดมากขึ้นมาอีกขึ้น ลักษณะเป็นครีมข้น มีส่วนผสมของน้ำมัน มีทั้งแบบวาวและเนื้อแมทไม่วาว แต่เนื้อค่อนข้างหนา เนียนมาก
+รองพื้นชนิดแท่ง ให้การปกปิดสูงกว่าชนิดอื่นๆ มีความเข้มข้นมากจนอัดเป็นแท่งได้ ช่างมืออาชีพนิยมใช้เพื่อแต่งหน้าให้กับนางแบบใส่สตูดิโอที่ต้องใช้แสงๆไฟจัดๆ
* อัพเดทข้อมูลนิดหน่อย สมัยนี้มีรองพื้นที่เมื่อทาแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งโดยไม่ต้องลงแป้งทับออกมาหลายยี่ห้อแล้ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า
วิธีการใช้
เลือกและผสมสีรองพื้นให้เข้ากับสีผิวมากที่สุด โดยลองที่บริเวณกรามเพื่อเปรียบเทียบสีผิว
ใช้ฟองน้ำ แปรงเกลี่ย หรือนิ้วมือก็ได้ แตะรองพื้นแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เข้าไปจนถึงไรผม
Makeup base [เมคอัพเบส]
หลายๆคนที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้าอาจจะไม่รู้จักเครื่องสำอางตัวนี้ เมคอัพเบสมันคืออะไรน้อ... เมคอัพเบสคือตัวช่วยสำคัญของเหล่าเมคอัพอาร์ติสมืออาชีพ ยิ่งสมัยนี้แล้วช่วยให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากๆ เมคอัพเบสจะช่วยปรับสภาพผิว ให้ดูสว่าง สดใส วิงค์ๆขึ้น เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมดาราถึงดูเจิดจรัสขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็ใช้รองพื้นยี่ห้อเดียวกัน ทำไมนางแบบหรือนายแบบนิตยสารหน้าเนียนกันได้ขนาดนี้ เหตุผลหลายประการมาจากเครื่องสำอางตัวนี้ค่ะ
ลักษณะของ make up base
- เนื้อใส หรือเนื้อเจลซิลิโคน ช่วยทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน ปกปิดรูขุมขน ลงก่อนลงรองพื้น
ไม่มีสี เกลี่ยค่อนข้างยาก
- เบสสีเขียว เนื้อครีม หรือ เนื้อเหลวสีเขียวอ่อน ช่วยให้ผิวหน้าดูขาวผ่อง สาวผิวเหลืองทั้งหลายก็จะไม่เหลืองเป็นเวตานอีกต่อไป
- เบสสีชมพู เนื้อครีมหรือ เนื้อเหลวสีชมพูอ่อน เมคอัพเบสสีชมพูเหมาะกับคนที่มีผิวขาวซีดไม่ค่อยมีเลือดฝาด ซึ่งจะช่วยให้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น
- เบสสีขาว เพิ่มมิติ และความแวววาวให้กับใบหน้า ผิวดูโกลว์ ผ่องขึ้น แต่ใช้มากไปก็จะเหมือนหน้ามัน
- เบสสีเนื้อ ส่วนมากจะมีประกายมุขผสมอยู่ด้วย เห็นง่ายๆในเทรนแต่งหน้าแบบเกาหลีที่หน้าจะเลื่อมๆ ดูเซ็กซี่ ทำให้ผิวดูเพอร์เฟ็คขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- เบสสีม่วง งงใช่ไหมจ๊ะว่าเอาสีม่วงมาทาหน้าแล้วมันจะไม่ดำเหรอ ไม่หรอกค่ะเพราะเบสสีม่วงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ เช่นผิวไม่สดใส นอนดึก พักผ่อนน้อย เนื้อก็จะเป็นสีม่วงอ่อน หรือเข้ม แตกต่างกันไปตามยี่ห้อ
- เบสสีเหลือง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับขาวผิวคล้ำที่อยากขาว หลายคนถามว่า "ทำไมไม่ใช้สีขาวหละคะ คำตอบคือ สีเหลืองจะช่วยทำให้ผิวที่มีสีดำหรือคล้ำสว่างขึ้นอย่างธรรมชาติลองคิดดูง่ายๆหากคุณเอากระดาษสีน้ำตาลมาระบายสีขาวลงไป
มันจะเป็นสีเนื้อเข้มออกจะเทาๆ หมองไปเลย แต่ถ้าใช้สีเหลืองระบายทับกระดาษสีน้ำตาลนอกจจะดูขาวขึ้น ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังทำให้ไม่หลอกตาด้วย
- บรอนเซอร์ เครื่องสำอางที่มิสแนะนำอย่างบิ่งให้คนที่รักความเซ็กซี่ครอบครองเป็นเจ้าของซักอัน ลักษณะของบรอนเซอร์เป็นครีมหรือแป้งสีทองอมน้ำตาล มีประกายสีทองยิบระยับ เพิ่มมิติให้ใบหน้า ลำตัว เพิ่มลู๊คความเป็นสาวเซ็กซี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นเฉดดิ้งไปในตัว หากใช้ทาตามร่างกายจะดูร้อนแรงไม่หยอกทีเดียว บ่งบอกว่าคุณน่ะเปรี้ยวแค่ไหน
- เบสสีเนื้อ ใช้ปรับสภาพผิวเช่นกัน มีลักษณะเป็นสีเนื้ออ่อนไม่มันวาว หลายยี่ห้อช่วยควบคุมควมมันบนใบหน้าไปในตัว
* อย่างไรก็ดีมีเมคอัพเบสอีกหลายสีที่แบรนด์เครื่องสำอางผลิตออกมากลบจุดด้อยของสีผิวมนุษย์ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย มิสเขียนไว้เป็นความรู้พอสับเขปนะคะ
วิธีใช้
ใช้นิ้วหรือแปรงเกลี่ยบางๆให้ทั่วใบหน้า หากเป็นซิลิโคนเบสแนะนำให้ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยอย่างรวดเร็ว เม่อแห้งจะเป็นเหมือนฟิล์มเคลือบใบหน้าอยู่ รูขุมขนดูเรียบเนียน ทำให้ไม่ต้องลงรองพื้นหนา ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนเบสสีก็ใช้ฟองน้ำ นิ้วมือ หรือแปรงเกลี่ยก็ได้ใช้ก่อนลงรองพื้นนะคะ
- วิธีใช้เมคอัพเบสไม่มีถูกไม่มีผิด สามารถพลิกแพลงได้ ควรระวังการใช้มากเกินไป หน้าจะดูลอย หลอกๆ-
Concealer [คอนซีลเลอร์]
ตัวช่วยสำคัญสำหรับเรื่องใต้ตาดำ สิว รอยดำทั้งหลาย คอนซีลเลอร์ดีๆจะทำให้มันหายไปได้เหมือนเวทมนต์
ลักษณะทั่วไป มีทั้งเนื้อเหลวแบบครีม แบบแห้งแบบอัดแท่ง ลำดับการปกปิดคล้ายรองพื้น คือแบบน้ำจะปกปิดน้อยกว่า แต่แน่นอนว่าเป็นธรรมชาติกว่าด้วย เนื้อเป็นสีครีม มีหลายสี แต่เป็นเฉดสีนู๊ด หรือสีเนื้อคนนั่นเอง
วิธีใช้ แต้มตามส่วนต่างๆที่ต้องการปกปิด ไม่ถึงขนาดต้องลงทั้งหน้า ใช้แต้มตรงที่เป็นสิว เป็นรอยดำ กลบใต้ตาแพนด้าอันไม่พึงประสงค์ จะใช้แปรงหรือนิ้วก็ได้ ไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำเกลี่ยเพราะเนื้อคอนซีลเลอร์จะโดนซับออกไปและโดนลากออกไปด้วยมือคุณใช้ฟองน้ำถู ให้ใช้พู่กันป้ายหรือใช้นิ้วแตะๆย้ำที่บริเวณนั้น
Hi-light [ไฮไลท์]
ลักษณะเหมือนครีมลองพื้นและคอนซีลเลอร์ แต่เนื้อมักจะบางกว่าคอนซีลเลอร์ ทำหน้าที่ช่วยสร้างความสว่างให้กับส่วนที่แต้มลงบนใบหน้าเหมาะสำหรับไฮไลท์หน้าผาก สันจมูก ตาใต้และคาง จะทำให้หน้าคนเอเชียที่ค่อนข้างจะแบนดูมีมิติขึ้น มีทั้งแบบตลับ แท่ง แบบน้ำ ให้เลือกใช้มากมาย
Shading [เฉดดิ้ง]
เฉดดิ้งเป็นครีมที่มีสีเข้ม ใช้สำหรับสร้างมิติให้ใบหน้าเช่นกัน แต่เฉดดิ้งเอาไว้สร้างส่วนลึกให้ใบหน้า เช่นการสร้างสันจมูก การลบกราม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ เล็กลง ดูดีมากขึ้น เหมือนนางแบบโฆษากระเป๋าเลยทีเดียว เฉดดิ้งจะมีสีเข้มออกน้ำตาลไล่ไปจนถึงดำ แล้วแต่ลักษณะผิวคน มีแบบน้ำ แบบครีมแท่ง แบบครีมธรรมดา ตามแต่สะดวกจะใช้ค่ะ วิธีใช้คือใช้ตามส่วนใบหน้าที่ต้องการปกปิดเช่นหน้าผากที่กว้างเกินไป คางที่ยาวเกินไปแก้มเยอะ (บางคนแก้มเยอะแล้วน่ารักนะ) กรามบาน(อันนี้ต้องใช้อย่างแรง) มีโหนกแก้มสูงเกินไป เป็นต้นจ๊ะ
Powder [แป้ง]
เป็นขั้นตอนหลังจากคุณเสร็จสิ้นการลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ เมคอัพเบสไปแล้ว เฉดดิ้งไฮไลท์ไปแล้ว เพื่อให้รองพื้นที่มี่ส่วนผสมของน้ำมันมากแห้ง เนียนต่อสัมผัส เตรียมพร้อมที่จะลงสีสันต่างๆบนผิวหน้า
ลักษณะทั่วไป เป็นฝุ่นผงเนื้อละเอียดมีหลายสี เช่นเดียวกับรองพื้น แบบฝุ่นหรือลูสพาวเดอร์จะให้การปกปิดบางเบา มีแบบอัดแข็งเป็นตลับเพื่อง่ายต่อการพกพา / แป้งผสมรองพื้น มีเนื้อหนากว่าแป้งนิดน้อยถึงมากแล้วแต่ยี่ห้อธรรมดา และให้การปกปิดสูงกว่า เหมาะสำหรับปกปิดผิวเดิมอย่างมิดชิด
วิธีใช้ ใช้พัปฟองน้ำหรือพัฟผ้าแตะแป้งแล้วแตะที่กระดาษทิชชู่เพื่อเอาแป้งส่วนเกินออกจะได้ไม่ไปกองอยู่บนผิวหน้า (เนียนอยู่ที่เดียว) แล้วแตะๆให้ทั่วหน้า หลายๆคนใช้วิธี ลาก ปาดๆๆๆๆ จริงๆแล้วการลงแป้งโดยใช้พัฟต้องโป๊ะค่ะ เพราะไม่งั้นรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่ลงไว้อย่างประณีตจะโดนเกลี่ยหายไปหมด ไม่เหลือความเนียนใดๆ แถมไม่เนียนอีกต่างหาก อีกวิธีคือใช้แปรงปัดแป้งแตะเนื้อแป้งแล้วปัดไปทั่วหน้า อย่าลืมไรผม ไม่งั้นจะเหมือนใส่หน้ากากอยู่
Eyebrow ดินสอเขียนคิ้ว
ใช้สำหรับเขียนคิ้วให้เป็นรูป มักมาในรูปดินสอ แต่สมัยนี้นิยมใช้อายชาโดวสีเข้มเช่นสีดำ น้ำตาล สีทอง สีน้ำตาลแดงมาใช้แทนแล้วเพราะดูเป็นธรรมชาติกว่าแบบดินสอ และแบบดินสอนี้หลายแบบ เป็นแบบเหลาด้วยกบ และแบบหมุนแท่งได้
Eyeliner ที่เขียนขอบตา
แทบจะเป็นอุปกรณ์เบสิกไปแล้วสำหรับสาวๆสมัยนี้กับ อายไลเนอร์ อุปกรณ์ช่วยให้ดวงตาดูคมชัด กลมโต หรือแก้ไขรูปตาให้สวยขึ้น ซึ่งสมัยก่อนผู้หญิงที่จะใช้อายไลเนอร์มักจะเป็นสาวสูงวัยที่แต่งหน้ามาแสนนาน แต่เดี๋ยวนี้อายไลเนอร์เป็นเครื่องสำอางนำเทรนสำหรับวงการการแต่งหน้าไปแล้ว
ลักษณะทั่วไป มีหลายชนิดเช่น
Gel liner หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักอายไลเนอร์ชนิดนี้ เป็นเจลสีต่างๆ เนื้อค่อนข้างแห้ง แพ็คเก็ตมักมาในรูปกระปุกเล็กๆ มีพู่กันพ่วงท้ายมาด้วยแล้วแต่ยี่ห้อ ตอนนั้นเบรนต่างๆก็เริ่มผลิตออกมาแข่งกันแล้ว อย่างเช่น บ็อบบี้บราวน์ เคท อทูดี้ [ที่เจลไลน์เนอร์ได้รับความนิยมในช่วงหลังสาเหตุหนึ่งคิดว่าเพราะเจลไลเนอร์มีความกลมกลืนกับผิวคนสูง ทำให้เส้นที่ได้ดูออกมาเป็นธรรมชาติไม่เลือนเลอะง่ายเหมือนแบบดินสอ เส้นที่ได้มักคมกว่าด้วยเช่นกัน แต่อันนี้ก็แล้วแต่ความนิ่งของมือคนเขียนนะจ๊ะ]
Pencil liner นิยมที่สุดเพราะนอกจะหาซื้อง่ายแล้ว ยังมาในรูปดินสอ มันจึงใช้ง่ายเหมือนวาดรูป เนื้อดินสอเขียนขอบตามักเป็นสีดำ สีน้ำตาล หรือสีต่างๆตามแบบแฟชั่น อัดแข็งมาอยู่ในรูปของดินสอ และเดี๋ยวนี้เพื่อไม่ต้องเสียเวลาเหลา ก็มาในรูปแท่งหมุนเช่นกัน เพื่อความรวดเร็วและสะดวกของคนยุคใหม่ แต่ข้อเสียของแบบหมุนคือ ปลายแหลมของแบบเหลาจะทำให้เขียนเส้นขอบตาได้คมกว่า
แบบน้ำ เส้นดำเฉียบ เฉี่ยวอย่าบอกใคร แพ็คเก็ตของไลเนอร์แบบน้ำมีหลายแบบ มีทั้งแบบแท่งเหมือนมาสคาร่า เป็นกระปุกหมุนจุกที่เป็นหัวพู่กัน ลักษณะเป็นของเหลวสีดำเข้ม มีทั้งแบบเนื้อด้านคือ ดำสนิทแบบไม่มีเงา กับสีดำแบบเห็นเงาแว๊บๆ ทำให้เห็นเส้นชัดมากขึ้น แต่ค่อนข้างใช้ยากหากมือไม่นิ่งจริง และง่ายต่อการพลาดด้วยค่ะ
แบบเมจิก ก็มาในรูแท่งเหมือนดินสอหัวที่ใช้เขียนเป็นพู่กันติดมากับแท่ง เหมือนปากกาเมจิกที่มีน้ำหมึกไหลออกมา เหมาะสำหรับมือใหม่อยากเขียนให้คบกริบเป็นอย่างมากเพราะใช้ง่าย
Eyeshadow สีทาตา
หนึ่งในขั้นตอนการแต่งหน้าแบบเต็มขั้นและเพิ่มความน่ารักดึงดูดให้กับดวงตาคือ อายชาโดวส์
ลักษณะทั่วไปเป็นผงสีต่างๆ มีหลายเฉดสี แต่ก็มีหลายชนิดเหมือนกัน
Pigment ผงสี ...... มันคือผงสี(จะเน้นทำไม) มักจะมาในรูปขวดหรือกระปุกเล็กๆ ใช้พู่กันแตะผงสีเหล่านี้ขึ้นมาแต่งหน้าดวงตาได้ตามชอบใจ พิกเมนท์มักจะมีวิงค์หรือภาษาแต่งหน้าคือ
กลิตเตอร์และชิมเมอร์ผสมอยู่ด้วยนะจ๊ะ
อายชาโดว์แบบอัดแข็ง อันนี้ก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ แทบจะ 70 เปอร์เซ็นต์คืออายชาวโดว์ที่อัดแข็งมาเสร็จเรียบร้อยจ้า มีไม่รู้กี่ล้านสีให้เลือกในตลาดเครื่องสำอาง โดยเฉพาะแบรนด์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อวงการแฟชั่นเนี่ย จะเป็นเจ้าแห่งสีสัน เรียกได้ว่า อยากได้เขียวมะนาวจี๊ดจ๊าด ชมพูหวานหยดย้อย เหลืองอ๋อยเหมือนกล้วย หรือแดงแจ๊ดเหมือนม่สีก็มีให้ซื้อใช้กันแล้วแต่โทนสีส่วนใหญ่ที่สาวๆนิยมใช้ในชีวิตประจำวัน คงจะเป็นเอริ์ทโทน สีน้ำตาล ซึ่งเป็นโทนที่กลมกลืนกับสีผิวที่สุดนอกจากจะช่วงสร้างมิติให้ดวงตาดูโตเป็นธรรมชาติแล้วยังดูไม่เว่อร์ แถมยังทำให้ดูตาหวานขึ้นอีกตะหากแน่ะ และสำหรับคุณผู้ชายทั้งหลาย ก็ใช้โทนสีธรรมชาตินี่แหละในการแต่งแต้มใบหน้า ดีกว่าให้ทาเปลือกตาสีชมพูเป็นไหนๆนะคะแต่ถ้าชอบก็ไม่ว่ากัน ^_^
ครีมอายชาโดวส์ เป็นอายชาโดวส์ที่มีเนื้อสีแบบเปียก เนื้อจะติดแน่นกว่าแบบผงเช่นพิกเมนท์กับแบบอัดแข็ง มีหลายแบบให้เลือกใช้
Glitter กลิตเทอร์
เคยเห็นใช่ไหมคะ ที่ดวงตาที่เหลาเดว่าทั้งหลายมีประกายวิงค์ๆ เหมือนมีเพชรเม็ดเล็กๆติดอยู่บนเปลือกตา หรืออาจจะเหมือนดาวดวงเล็กๆที่เหลือบไปมา ทำให้มองแล้วเพลิดเพลินเหมือนดูภาพเคลื่อนไหวอย่างไรอย่างนั้น
ลักษณะทั่วไปเป็นผงวิงค์ๆนะคะ วิบวับ มีหลายแบบมากๆเลย ที่นำมาให้ดูเป็นของเมคอัพสโตร์
ถ้าอยากเพิ่มความโดดเด่นให้กับดวงตาในวันพิเศษเช่นงานเลี้ยงกลางคืนหรืองานที่ต้องการจะโดดเด่นกว่าคนอื่นหละก
อย่าลืมใช้กลิตเตอร์นะคะ
Shimmer ชิมเมอร์
มีผสมมากมายในเหล่าเครื่องสำอางที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งรองพื้น อายชาโดดว์ อายไลเนอร์ บรัชออน หรือแม้กระทั่งลิปสติก ลักษณะเป็นวิงค์เล็กๆระยิบระยับเป็นผงที่เล็กว่ากลิตเตอร์ ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดแต่จะเพิ่มความวิงค์เป็นประกายให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผสมชิมเมอร์ลงไป ทำให้เด่นสะดุดตากว่าสีแมทหรือสีเนื้อด้านที่ดูเป็นธรรมชาติ ในทางตรงกันข้ามเครื่องสำอางที่ผสมชิมเมอร์ไม่ดูธรรมชาติสักเท่าไหร่แต่สร้างความน่าตื่นเต้นบนใบหน้า และลำตัวคุณได้มากทีเดียวเชียวหละ
Mascara มาสค่าร่า ที่ปัดขนตา
เมคอัพอาร์ทิสชื่อดังหลายท่านได้ให้ความสำคัญกับเครื่องสำอางชนิดนี้มากๆ ถึงกับกล่าวว่าอย่าลืมปัดมาสคาร่า เพราะขนตาอันงอนงามนั้นสร้างความดึงดูดใจให้เพศตรงข้ามได้มากพอควร แถมยังเสริมบุคลิกให้กับสาวทำงานที่ต้องพบปะผู้คน ทำให้ดูรู้สึกว่าคุณนั้นละเมียดละไมกับการแต่งตัวและละเอียดอ่อนกับใบหน้าของตนเองข้อดีอย่างหนึ่งของการปัดมาสคาร่า
คือแก้ปัญหารูปตา ช่วยให้ขนตาดูหนา และยาวขึ้นได้ และทำให้ดวงตาดูโตขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ สามารถเปลี่ยนบุคลิกสาวหวานให้เป็นสาวเปรี้ยว หรือจะเปลี่ยนสาวเปรี้ยวกับมาหวานได้ด้วยการเลือกใช้มาสคาร่า
Blush ที่ปัดแก้ม
มีสีให้เลือกมากมายเพื่อพวงแก้มสวย และยังใช้เพื่อแก้ไขรูปหน้าให้ดูดีได้อีกด้วย
บรัชครีม เป็นเนื้อครีมเปียกๆ เป็นชนิดค่อนข้างติดทน ใช้ลงหลังรองพื้น ใช้ไม่เหมือนกันบรัชออนแบบผงที่จะปัดแก้มหลังจากได้ทาแป้งเสร็จแล้ว เหมาะกับวันหนักๆเช่นรับปริญญา สีของแก้มจะได้ดูมีเลือดฝาดตลอดเวลาไม่ต้องเสียเวลาปัด ตบ เติมบ่อยๆ
* บางยี่ห้อทำเป็นเจลใส คล้ายน้ำยาอุทัยทิพย์ แต่จะเกลี่ยสีได้ยากกว่าแบบครีมเพราะแห้งไวกว่าจ้า
แบบแป้งอัดแข็ง
เป็นแป้งสีต่างๆมากมายเลย แต่เต็มไปด้วยแม็ดสีเล็กๆ มีให้เลือกหลากหลายมากๆ การเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับสีผิวที่คุณใช้จะเข้ากับสีใด ใช้กับแปรงปัดบรัชออนที่มีให้เลือกหลายขนาดมากทั้งแต่แบบเล็กที่แถมมากับตลับบรัช หรือแบบแยกเป็นแท่งพับเก็บ หรือแบบแท่งยาวแบบที่โปรใช้ๆกัน
Lip care
เป็นลิปที่ใช้บำรุงริมฝีปาก ก่อนแต่งหน้าหรือทาในระหว่างวันก็ได้เพราะช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื่น ทำให้ริมฝีปากเต่งตึง ทาปากแล้วสวยไม่แห้ง ปากสวยก็มีชัยไปกว่าครึ่งเหมือนกันนะ
Lip liner ดินสอเขียนขอบปาก
เป็นดินสอสีเข้ม ที่ช่วยแก้ไขปัญหาขนาดริมฝีปากของคนที่ ปากเล็กไป ใหญ่ไป กว้างไป แต่สมัยนี้แทบไม่ใช้กันแล้วเนื่องจากการเน้นขอบปากให้ชัดเจนทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ดูดอึดอัด ดีไม่ดำทำให้ดูแข็งด้วยเมื่อลิปสติกหลุดออกจากริมฝีปากเหลือไว้แต่ดินสอเขียนขอบปากเป็นเส้นๆ แต่สำหรับงานเลี้ยงกลางคืนที่ต้องการความเนี๊ยบสุดๆ ก็น่าเลือกใช้เหมือนกัน
Lip color สีทาปาก
ลิปสติกที่เราใช้อยู่กันทั่วไปมีสีละลานตาอย่างที่แทบจะเลือกไม่ถูก สีชมพูที่เคยเห็นอาจจะมีหลายเฉดหรือไม่เหมือนกันเป็นร้อยๆแบบทั้งๆที่เป็นสีชมพูเหมือนกัน
ลิปสติกเหล่านี้มักผสมด้วยน้ำมันออยที่ใช้สำหรับเครื่องสำอาง มีสีสันแต่งแต้มริมฝีปากให้ชวนมองหรือสร้างอารมณ์ที่แตกต่างในแต่ละวัน หรือแต่งให้เข้ากับเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้นๆ สิปสติกมักมาในรูปแบบแท่งหมุน และฝาปิดได้ แพ็กเก็ตจะสวยแค่ไหนแล้วแต่เครื่องสำอางแต่ละยี่ห้อ เชื่อว่าคนที่ชอบการแต่งหน้า หากรู้จักกับการแต่งหน้าเติมสีสันแล้ว ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ใช้สนุกที่สุดเชียวหละ และเป็นเครื่องสอางที่สาวๆมักพกไว้ในกระเป๋า เพราะอย่างน้อยที่สุดเมื่อคืนไม่ได้แต่งหน้า ลิปสติกดีๆซักแท่งช่วยให้ดูสดใสขึ้นได้นะ
ลิปสติกมีทั้งแบบเนื้อแมท หรือเนื้อแห้งนั่นเองไ ม่มีความแวววาวเลย ให้ลุ๊คดูเนี๊ยบ เหงา สวยแบบลึกลับ หรือเซ็กซี่ได้ แบบเนื้อกลอส ทำให้ดูแวววาว เหมือนเคลือบไวด้วยน้ำมัน บางแบบก็มีประกายน้ำ บางเบา สมัยนี้นิยมผสมชิมเมอร์ลงไปด้วยให้มีประกายเล็กๆบนริมฝีปากของคนทา
Lip gloss กลอส
เครื่องสำอางที่วัยรุ่นเพิ่งเริ่มแต่งหน้าชอบเป็นพิเศษเพราะนอกจากสีสันจะไม่จัดจ้านแล้ว ยังทาง่ายไม่ต้องกลัวเลอะซักเท่าไหร่ มีความโปร่งแสงสูงทำให้เห็นพื้นหลังของริมฝีปากอยู่ทำให้ดูไม่หนักเกินไปในวันสบายๆ หรือคนที่ไม่ชอบแต่งหน้าจัด และจะยิ่งพิเศษไปกว่านั้นเมื่อทาทับลงบนริมฝีปากที่ทาลิปสติกไว้ทำให้ริมฝีปากดูสวยเด่น เป็นประกาย แต่ถ้าทามากไปหละก็ อาจจะย้อยลงมาข้างล่าง บางคนอาจจะคิดว่ามันเหมือนเพิ่งกินข้าวมันไก่มา แต่ส่วนตัวมิสคิดว่า มันแวววาวกว่ากินข้าวมันไก่เยอะเลยจ้า
ลิปกลอสส่วนใหญ่บรรจุอยู่ในหลอดพร้อมแท่งกำมะหยี่ไว้ทาปาก หรืออาจจะเป็นแบบหลอดบีบที่เจาะปลายไว้ มีทั้งแบบผสมชิมเมอร์และแบบใส แบบมีสี เลือกใช้กันตามชอบใจ บางยี่ห้อแต่งกลิ่นหอมทำให้มีความสุขเมื่อทา และบางยี่ห้อก็มีรสชาติด้วยนะ หวานอย่าบอกใครเชียวหละ แต่อย่าเผลอทานเข้าไปบ่อยนักหละ ไม่ดีต่อร่างกายนะจ๊ะ
ทินท ์Tint
ไม่อัพเดทกันหน่อยคงไม่ได้เพราะฮิตกันเหลือเกินในการแต่งหน้าแบบอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ไม่ทราบว่าเขียนถูกไหมแต่การใช้ทาปากด้านในและข้างนอกเป็นสีนู๊ด ช่วยเพิ่มความสุขภาพดี ดูเซ็กซี่ หรือท่าทาทั้งริมฝีปาก จะดูแดงเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ลิปสติกชนิดอื่นๆ เพราะไม่มัน ไม่วาว และติดทน ซึ่งนิยมมากในสมัยนี้ เคยเห็นบอยแบนด์ปากแดงๆหลายคนก็ใช้ทินท์แต่งเติมปาก ให้ดูไม่จืด แถมยังน่าจุ๊บอีกด้วย
ทินท์ นอกจากจะไว้สำหรับทาปากได้แล้ว บางชนิดยังไว้ทาแก้มได้อีกตังหากเรียกว่ายิงปีนนัดเดียวได้นกสองตัว สวยสองต่อ แต่อย่าเผลอทาปากไป เพราะปากจะแดงมากจนอาจจะเป็นปอปผีฟ้าได้
จบเรื่องเครื่องสำอางคร่าวๆแล้ว หวังว่าสาวๆหนุ่มๆจะได้เอาไปใช้ประโยชน์กันบ้าง
อย่างไรก็เลือกเครื่องสำอางดีๆด้วย ใจเย็นๆ ระมัดระวังในการเลือกใช้เพราะลางเนื้อชอบลางยานะ
บางอย่างเพื่อนใช้แล้วดี แต่เราอาจจะใช้แล้วแพ้ ทางที่ดีควรแตะที่ผิวหนังเช่นข้อแขนตรงที่เนื้ออ่อนๆก่อนแล้วเดินเล่นซักพัก หากไม่มีอาการแพ้ คัน หรือแดงหละก็ ค่อยเดินกลับไปซื้อก็ไม่เสียหลายนะจ๊ะ ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น